Motor Fitness และ Physical Fitness เป็นแนวคิดสำคัญในการออกกำลังกาย แม้ว่า 2 คำนี้ฟังดูแล้วอาจจะคล้ายกัน แต่มันก็แสดงถึงแง่มุมที่แตกต่างกันในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของร่างกาย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของทั้งสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก เพื่อเสริมสร้างแนวทางที่ครอบคลุมในด้านฟิตเนสและการมีสุขภาพที่ดี
ความสำคัญของ Motor Fitness และ Physical Fitness
การมีสุขภาพที่ดีและร่างกายที่แข็งแรงเป็นเป้าหมายที่คนทุกวัยต้องการ อย่างไรก็ตาม การมีสมรรถภาพที่ดีที่สุดนั้นต้องเข้าใจมิติต่าง ๆ ของสมรรถภาพ รวมถึงสมรรถภาพทางกาย และสมรรถภาพทางกลไก ซึ่งทั้งสองแนวคิดนี้ได้รวมคุณลักษณะต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน โดยมีส่วนช่วยให้แต่ละคนสามารถทำกิจกรรมในแต่ละวัน รวมถึงการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าแนวคิดของทั้งสองอย่างนี้จะมีอะไรและช่วยในด้านใดบ้าง
Physical Fitness การสร้างรากฐานของร่างกายให้แข็งแกร่ง
สมรรถภาพทางกายครอบคลุมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อสุขภาพโดยรวมและการทำงานของร่างกาย องค์ประกอบแต่ละส่วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการมีสุขภาพที่แข็งแรงและป้องกันปัญหาสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี หากคุณมีสมรรถภาพทางกายที่แข็งแรงมันจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมได้ ดังนี้
1. สมรรถภาพหัวใจและปอด
สมรรถภาพหัวใจและปอด หรือที่เรียกกันว่าฟิตเนสแบบแอโรบิก เกี่ยวข้องกับความสามารถของหัวใจในการสูบฉีดเลือดที่มีออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อระหว่างการออกกำลังกาย, การวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ หรือการเดินเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพหัวใจและปอด พร้อมทั้งเพิ่มความอดทนและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ การออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างสม่ำเสมอยังช่วยรักษาสมดุลของแร่ธาตุ (240) ในร่างกายได้ด้วยเช่นกัน
2. ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ
ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมในแต่ละวันและการออกกำลังกาย แม้ว่าความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะทำให้คุณออกแรงต้านแรงต้านทานได้ แต่ความอดทนของกล้ามเนื้อยังช่วยให้คุณทนต่อการหดตัวของกล้ามเนื้อได้อย่างต่อเนื่อง การผสมผสานการฝึกกำลังแบบใช้แรงต้านทาน เช่น การยกน้ำหนัก, การออกกำลังกายแบบบอดี้เวท และใช้ยางยืดออกกำลังกาย สามารถเพิ่มทั้งความแข็งแกร่งและความอดทนได้ คุณจะสังเกตได้ว่าการฝึกแบบแรงต้าน (205)ได้รับความนิยมอย่างมากจากประสิทธิภาพในการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
3. ความยืดหยุ่น
ความยืดหยุ่นหมายถึงช่วงการเคลื่อนไหวรอบ ๆ ข้อต่อที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการบาดเจ็บและรักษาท่าทางที่เหมาะสม กิจกรรมในการยืดหยุ่นต่าง ๆ สามารถทำได้ เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ, โยคะ และพิลาทีส ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมกับส่งเสริมสุขภาพข้อต่อและความคล่องแคล่วโดยรวมได้เป็นอย่างดี การผสมผสานทั้งการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อแบบเหยียดค้าง (188) และยืดหยุ่นแบบไดนามิกสามารถช่วยให้มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นได้
4. องค์ประกอบของร่างกาย
องค์ประกอบของร่างกายหมายถึงการกระจายของไขมันในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อ การมีองค์ประกอบของร่างกายที่ดีผ่านการรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวมและการรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม การติดตามองค์ประกอบของร่างกายโดยรวม(244) ตนเองอย่างสม่ำเสมอสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระดับสมรรถภาพโดยรวมได้
มอเตอร์ฟิตเนส กลไกการเคลื่อนไหวและการประสานงานของร่างกาย
สมรรถภาพทางกลไกจะเน้นไปที่ประสิทธิภาพและการประสานงานของการเคลื่อนไหวในร่างกาย มันครอบคลุมทักษะการเคลื่อนไหวเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการทำกิจกรรมที่ต้องมีการควบคุมและความคล่องแคล่ว โดยรวมแล้วมันมีหลักความสำคัญต่อร่างกาย ดังนี้
1. การประสานงาน
การประสานงานเกี่ยวข้องกับความสามารถในการประสานการเคลื่อนไหวของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่าลงตัว เช่นการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างการเต้น, การเล่นเครื่องดนตรี และแม้แต่การพิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ จำเป็นต้องใช้การประสานระหว่างกลุ่มกล้ามเนื้อต่าง ๆ
2. ความสมดุล
ความสมดุล คือ ความสามารถในการรักษาสมดุลขณะอยู่กับที่หรือระหว่างการเคลื่อนไหว มันมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการหกล้มและการรักษาเสถียรภาพในกิจกรรม เช่น โยคะ, ไทเก๊ก และการยืนด้วยขาข้างเดียวเพื่อช่วยปรับปรุงสมดุล หากคุณมีกล้ามเนื้อแกนกลางที่แข็งแรง (196) ที่ดียิ่งขึ้น มันจะช่วยรองรับการทรงตัวและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้
3. ความคล่องแคล่ว
ความคล่องแคล่วหมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกีฬาที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงทิศทางการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น บาสเกตบอล, ฟุตบอล และเทนนิส ซึ่งการฝึกซ้อมความคล่องแคล่วและการออกกำลังกายแบบพลังระเบิดกล้ามเนื้อ (163) มักถูกใช้เพื่อเพิ่มองค์ประกอบนี้
4. เวลาการตอบสนอง
เวลาการตอบสนองคือความเร็วในการตอบสนองต่อสิ่งเร้า ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งของสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในกิจกรรมที่ต้องการการตัดสินใจและการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
5. พลัง
พลังคือการผสานรวมความแข็งแกร่งและความเร็วเข้าด้วยกันและมีความจำเป็นสำหรับการเคลื่อนไหวแบบระเบิดแรง การออกกำลังกายแบบพลีโอเมตริก เช่น Box Jump และขว้างลูกบอลทรงกลม จะช่วยเพิ่มพลังและมีประโยชน์ต่อกีฬา เช่น การวิ่งระยะสั้นและยกน้ำหนัก
จุดตัดของ Physical Fitness และ Motor Fitness
แม้ว่าสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไกอาจดูแตกต่างกัน แต่ทั้งสองมีความเชื่อมโยงกัน โดยสมรรถภาพทางกายนั้นจะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับสมรรถภาพทางกลไกการเคลื่อนไหว ช่วยปรับปรุงขีดความสามารถของร่างกายในการทำกิจกรรมที่ซับซ้อน, กำลัง, ความอดทน และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่ได้จากสมรรถภาพทางกาย จะช่วยส่งเสริมให้มีเสถียรภาพและความคล่องแคล่ว ซึ่งมีความสำคัญต่อสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวอย่างยิ่ง
การสร้างกิจวัตรการออกกำลังกายที่สมดุล
เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ครอบคลุมในการออกกำลังกาย ควรให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหว การมีส่วนร่วมในหลากหลายกิจกรรมทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิก, การฝึกกำลัง, กิจกรรมยืดเหยียด และกิจกรรมที่ท้าทายการประสานงานและความคล่องแคล่ว สามารถนำไปสู่การพัฒนาสมรรถภาพได้อย่างครอบคลุม
ประโยชน์ของการมุ่งเน้นทั้งสองด้าน
- ประสิทธิภาพทางกีฬาเพิ่มขึ้น: การผสมผสานทั้งสองด้านนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของการเล่นกีฬา ทำให้คุณมีความคล่องแคล่ว, มีกำลัง และมีการประสานงานในร่างกายที่ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ: กล้ามเนื้อที่แข็งแรง, ท่าทางที่เหมาะสม และการทรงตัวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้
- สุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น: การบรรลุสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม จะช่วยสนับสนุนสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด, ความหนาแน่นของกระดูก และสุขภาพจิตที่ดี
โดยสรุปแล้ว ในการแสวงหาชีวิตที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง การทำเข้าใจความแตกต่างระหว่างสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในขณะที่สมรรถภาพทางกายมุ่งเน้นไปที่สุขภาพโดยรวม, กำลังกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่น ส่วนสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวจะช่วยกระชับการประสานงานในร่างกาย, ความสมดุล, ความคล่องแคล่ว และประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวของคุณ การรับรู้ถึงความสำคัญขององค์ประกอบทั้งสองและรวมการออกกำลังกายที่มุ่งเน้นทั้งสองด้านนี้ คุณจะสามารถสร้างรากฐานสำหรับประสิทธิภาพในร่างกายที่ดีขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นได้
คําถามที่พบบ่อย
1. สามารถเน้น Physical Fitness และ Motor Fitness ในกิจกรรมออกกำลังกายได้ไหม?
แม้ว่าคุณจะสามารถเน้นด้านใดด้านหนึ่งได้ แต่แนะนำให้ใช้ทั้งสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวเพื่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกายแบบรอบด้าน
2. ควรทำกิจกรรมที่ปรับปรุงสมรรถภาพด้านกลไกการเคลื่อนไหวบ่อยแค่ไหน?
การผสมผสานกิจกรรมสมรรถภาพด้านกลไกการเคลื่อนไหวในสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สามารถนำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญในด้านการประสานงาน, ความคล่องแคล่ว และทักษะด้านการเคลื่อนไหวอื่น ๆ ได้
3. การฝึกสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวสามารถแทนที่การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอได้ไหม?
การฝึกสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวเสริมการออกกำลังกายแบบดั้งเดิมและพัฒนาสมรรถภาพโดยรวมของคุณได้ แต่ทางที่ดีที่สุดควรรวมทั้งสองอย่างเพื่อให้ได้ผลอย่างครอบคลุม
4. มีการออกกำลังกายเฉพาะเจาะจงที่เน้นเป้าหมายทั้งสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวไหม?
กิจกรรมต่าง ๆ เช่น Circuit training, การออกกำลังกายแบบเต้น และการฝึกฝนแบบฟังก์ชันนัล มีส่วนร่วมทั้งองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหว
อ้างอิง :
1. LiveStrong – Six Components of Fitness Related to Motor Skills. https://www.livestrong.com/article/534286-six-components-of-fitness-related-to-motor-skills/
2. Unacademy – Motor Fitness. https://unacademy.com/content/cbse-class-12/study-material/physical-education/motor-fitness/
3. The Parental Magazine – What is Motor Fitness. https://www.theparentalmagazine.com/2018/02/what-is-motor-fitness.html