Functional Training คือ? การฝึกที่ให้ความเเข็งแรงทั่วทั้งร่างกาย

Functional Training คือ

Table of Contents

Functional Training ชื่อของการฝึกรูปแบบนี้คือ มุ่งเน้นการเตรียมร่างกายสําหรับการเคลื่อนไหวต่าง ๆ และทำกิจกรรมในชีวิตจริง เป็นอีกรูปแบบที่ผู้ที่ชื่อชอบการออกกำลังกายนิยมทำกันเป็นจำนวนวมาก หลักการนี้แตกต่างจากการฝึกฝนรูปแบบปกติที่จะเน้นกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ในการเทรนนิ่งนี้จะเน้นท่าทางที่สะท้อนการเคลื่อนไหวที่คนเราอาจทําได้ที่บ้าน, ที่ทํางาน, หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อะไรที่ทําให้การฝึก ฟังก์ชั่นนอล เทรนนิ่ง แตกต่างจากวิธีการออกกําลังกายอื่นๆ มาดูข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดนี้ให้ละเอียดมากขึ้นกัน

Functional Training คืออะไร

การออกกำลังทั้งร่างกาย เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกําลังกาย ที่ฝึกให้ออกท่าทางคล้ายกับกิจกรรมในชีวิตประจําวัน ไม่เหมือนกับการออกกําลังกายแบบทั่วไปที่เน้นกล้ามเนื้อกลุ่มเฉพาะ การออกกําลังกายรูปแบบนี้ ถูกออกแบบมาให้กล้ามเนื้อและข้อต่อหลายส่วนทํางานร่วมกัน ด้วยท่าทางที่สะท้อนการเคลื่อนไหวในชีวิตจริง เช่น ย่อตัวลง, ผลัก, ดึง, หรือยก

Functional Training คืออะไร

ประโยชน์

  1. ความแข็งแรงที่ใช้ได้จริง: แทนที่จะเน้นกล้ามเนื้อเดี่ยวๆ กระบวนการนี้สร้างความแข็งแรงแบบองค์รวม ทำให้ความแข็งแรงสามารถถ่ายโอนไปสู่กิจกรรมประจําวันได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการยกกล่องหนักหรือเล่นกีฬาอื่น ๆ
  2. ความคล่องแคล่วและสมดุลที่ดีขึ้น: มันช่วยให้การประสานงานและเกดความคล่องแคล่วว่องไว เช่น การทํา ท่าดัมเบลนั่งย่อ [84] ไม่เพียงทํางานกล้ามเนื้อต้นขา แต่ยังเรียกใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเพื่อทรงตัวด้วย
  3. ป้องกันการบาดเจ็บ: โดยการพัฒนาความสามารถของร่างกายในการทํางานอย่างองค์รวม สามารถลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้ มันส่งเสริมให้ทรงตัวที่ดีขึ้นและช่วยลดแรงกดทับต่อข้อและกล้ามเนื้อ
  4. ความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหว: ด้วยท่าทางที่ใช้ ทำให้ ช่วงการเคลื่อนไหว [224] ทั้งหมดของข้อต่อ ส่งเสริมความยืดหยุ่น ให้กล้ามเนื้อและข้อเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
  5. เพิ่มประสิทธิภาพความจํากล้ามเนื้อ : การมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวในชีวิตจริง ฝึกเสริมสร้างสมองให้จํารูปแบบเหล่านี้ได้ เพิ่มความจำของกล้ามเนื้อ [220] ทําให้ง่ายในการต่อยอดการออกกำลังกายอื่น ๆ

องค์ประกอบ

การออกกำลังกายประเภทนี้ รวบรวมการขยับตัวรวมไปถึงข้อต่อและมุ่งเน้นร่างกายให้ทำงานอย่างสัมพันธ์ โดยมันมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

Functional Training

  1. ใช้การเคลื่อนไหวผสมกัน: วิธีการนี้ทำให้มีส่วนร่วมของกล้ามเนื้อหลายกลุ่มพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น ท่าถือบาร์เบลนั่งย่อ [94] ซึ่งทํางานกับกล้ามเนื้อหลัก, หลัง, และขา ถือว่าเป็น การเคลื่อนไหวที่ผสมสาน [162]ได้อย่างลงตัว
  2. ความสมดุลและเสถียรภาพ: การสร้างรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ ๆ อย่างเช่น พื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอจะช่วยให้ท้าทายความสมดุลของร่างกายได้ ด้วยตัวเสริมอุปกรณ์อย่าง ลูกบอลโยคะ [124] ที่เป็นประโยชน์ได้อย่างแน่นอน
  3. ความอดทนและความแข็งแรง: ในกิจวัตรประจำวันทั่วไปนั้นความอดทนเป็นสิ่งจำเป็นมันจึงมักข้องเกี่ยวกับการออกกำลังกายรูปแบบ การฝึกพลังกล้ามเนื้อ (166) อันเป็นส่วนประกอบเสริมสร้างความทนทานเพื่อให้การออกกำลังกายได้อย่างครอบคลุม
  4. ความยืดหยุ่น: การยืดเหยียดและ การยืดแบบไดนามิค (198) มีความสําคัญเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายมีความยืดหยุ่นพร้อมกับทุกช่วงท่าการเคลื่อนไหว

อุปกรณ์ที่ใช้ใน Functional Training

การใช้อุปกรณ์ร่วมกับการออกกำลังกายประเภทนี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการฝึกได้เป็นอย่างดี เช่น

อุปกรณ์ที่ใช้ใน Functional Training

  1. อุปกรณ์ที่เสริมน้ำหนัก : เครื่องมือที่เสริมน้ำหนัก ความสามารถหลากหลายและเหมาะสําหรับการออกกําลังกายที่มุ่งเน้นทั้งร่างกาย ซึ่งเสริมสร้างพละกำลังและสมดุล เช่น ลูกตุ้มน้ำหนัก (112) ช่วยให้เพิ่มน้ำหนักมากขึ้นและมีช่วงเคลื่อนไหวที่อิสระ
  2. อุปกรณ์ที่เสริมแรงต้าน : อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มแรงต้าน สร้างการฝึกที่เข้มข้นมากขึ้น เช่น สายรัดออกกำลังกาย (111) นอกจากพกพาง่ายแล้ว ยังช่วยการออกกำลังกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  3. อุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมช่วงบนและล่าง : ให้การออกกําลังกายของกล้ามเนื้อส่วนบนและล่างมีส่วนร่วมกันอย่างครอบคลุม เช่น กรรเชียงบก (116) มีมือจับช่วยในการเคลื่อนไหวและควบคุมการทรงตัวของส่วนบน และด้านล่างเสริมแรงต้านให้กับช่วงขา

ความแตกต่างระหว่าง ฟังก์ชั่นนอล เทรนนิ่ง กับการออกกําลังกายแบบดั้งเดิม

ประเภทการออกกำลังกายทั้งสองอย่างนี้ มีความแตกต่างกันอยู่ที่การประยุกต์ใช้ การออกกำลังกายแบบดั้งเดิมจะเน้นการใช้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น ท่าไบเซ็ปเคิร์ล (87) แต่ฟังก์ชั่นนอล เทรนนิ่งได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนทำงานสัมพันธ์กันและฝึกด้วยท่าทางมากมายในหลาย ๆ ทิศทาง ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ออกกำลังที่ครบถ้วนทุกสัดส่วน

มากกว่าทศวรรษแล้วที่การออกกำลังกายแบบนี้ ได้กําหนดทิศทางใหม่ให้กับวิธีคิดเกี่ยวกับสุขภาพของเรา แทนที่จะเพียงแค่ไล่ตามขนาดกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงเฉพาะจุด แต่ช่วยทำให้บุคคลนั้น ๆ ได้มีพื้นฐานร่างกายแข็งแรง จนถึงการปรับปรุงสมดุลและความคล่องแคล่วที่สามารถใช้ได้จริงในกิจวัตรประจำวัน เมื่อเรารวมการฝึก Functional Training กับเครื่องมือต่าง ๆ  เช่น เคตเทิลเบลล์หรือ สายยางรัดออกกำลังกาย เสริมให้การออกกําลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฝึกนี้เตรียมร่างกายไม่เพียงแค่ทำให้รูปร่างของคุณดูดี แต่ยังสามารถทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในงานและสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจําวันด้วย

คําถามที่พบบ่อย

1. เป้าหมายหลักของประเภทออกกำลังกายนี้คืออะไร

เป้าหมายหลักของการฝึก คือการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตจริง โดยเน้นที่ความแข็งแรงแบบภาพรวมมากกว่าเน้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุด

2. มันแตกต่างจากการออกกําลังกายแบบทั่วไปในฟิตเนสซ์อย่างไร

การออกกําลังกายแบบทั่วไปในฟิตเนสมักเน้นกล้ามเนื้อกลุ่มเฉพาะ ในขณะที่การออกกําลังกายแบบ Functional ออกแบบมาให้กล้ามเนื้อและข้อต่อหลายส่วนทํางานร่วมกัน สะท้อนการเคลื่อนไหวในชีวิตจริง

3. เราสามารถใช้เครื่องมือร่วมกับการฝึกโปรแกรมนี้ได้ไหม

คุณสามารถทำได้ อุปกรณ์อย่างเช่น เคตเทิลเบลล์ มันยอดเยี่ยมมากสําหรับการฝึก เนื่องจากสามารถพลิกแพลงท่าทางได้หลากหลาย มีส่วนในการเสริมสร้างทั้งความแข็งแรงและสมดุลของร่างกาย

4. มือใหม่สามารถฝึกโปรแกรมนี้ได้ไหม

โปรแกรมนี้เหมาะสมอย่างยิ่ง มันสามารถปรับให้เข้ากับบุคคลทุกระดับความฟิต รวมถึงคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้วย

 

อ้างอิง :

  1. Planet Fitness – What Is Functional Fitness Training? A Beginner’s Guide To Functional Workouts And Strength Training. https://www.planetfitness.com/community/articles/functional-fitness-training
  2. Anytime Fitness – What Is Functional Training? https://www.anytimefitness.com/ccc/ask-a-coach/what-is-functional-training-everything-you-need-to-know-to-get-started/
  3. Self – What Functional Training Is and Why It’s Important. https://www.self.com/story/what-functional-training-is-why-its-important
  4. Frontiers Media – “Functional Fitness Training”, CrossFit, HIMT, or HIFT: What Is the Preferable Terminology? https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fspor.2022.882195/full
Picture of Nattakit Panthong

Nattakit Panthong

ผมเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพที่เรียนจบวิทยาศาสตรการกีฬา และได้ผ่านหลักสูตรฝึกอบรมมากมาย ผมมีประสบการณ์ในเรื่องการฝึกสอนแบบส่วนตัวมากกว่า 10 ปี รวมถึงการสอนออกกำลังกายแบบกลุ่มในคลาสออกกำลังกายอีกมากมายหลายประเภท เพราะฉะนั้นผมจึงอยากนำความรู้และประสบการณ์การออกกำลังกายรวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายมาแนะนำแบ่งปันแก่เพื่อน ๆ ทุกคน

เนื้อเรื่องที่คุณอาจสนใจ

Endurance Training คือ
Endurance Training คือ? รูปแบบการฝึกความอดทนในการออกกำลังกาย

Endurance Training คืออะไร ? การฝึกที่ส่งเสริมสร้างความอดทนอย่างครอบคลุมหลายมิติ ไม่ใช่เพียงแค่ฝึกขีดจำกัดทางร่างกาย แต่เป็นการผสมหลายเทคนิค

Anaerobic Exercise คือ
Anaerobic Exercise คือ ? ความแตกต่างและประโยชน์ของแอนแอโรบิค

Anaerobic Exercise เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายที่ไม่ใช้ออกซิเจน เกี่ยวข้องกับการออกแรงอย่างหนักและรวดเร็ว ต่างจากการออกกำลังแบบแอโรบิค

Plyometrics คืออะไร
Plyometrics คืออะไร? วิธีเพิ่มพลังให้กับกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณ

Plyometrics วิธีการฝึกที่ใช้ความแข็งแรงและความเร็ว มุ่งเน้นการเคลื่อนไหวแบบฉับพลัน เพื่อเสริมสมรรถภาพทางกายและพลังกล้ามเนื้อ

Low impact คือ
Low impact คือ? การออกกำลังกายลดแรงกระแทกที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้อ

การออกกําลังกายแบบ Low impact คือ ทางเลือกที่น่าสนใจสําหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกาย โดยไม่เพิ่มแรงกดทับมากเกินไปต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อ

Circuit Training คืออะไร
Circuit Training คืออะไร ? ทำความรู้จักกับการฝึกที่ง่ายและใช้เวลาน้อย

Circuit Training หนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและประหยัดเวลาที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความพร้อมให้กับร่างกาย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top