ลู่วิ่งไฟฟ้า Treadmills เครื่องวิ่งออกกำลังกาย และข้อมูลที่ควรรู้

ลู่วิ่งไฟฟ้า Treadmills เครื่องวิ่งออกกำลังกาย และข้อมูลที่ควรรู้

Table of Contents

ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmills) เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ช่วยให้คุณสามารถวิ่งหรือเดินบนลู่วิ่งสายพานได้ สามารถใช้ได้ทั้งภายในบ้าน, นอกบ้าน หรือที่ใดก็ได้ที่มีแผงเสียบไฟฟ้าเชื่อมต่อโดยไม่จำเป็นต้องออกไปวิ่งข้างนอก ตัวเครื่องลู่วิ่งไฟฟ้าจะมีแผงควบคุมที่คุณสามารถปรับความเร็วและความชันในการวิ่งหรือเดินได้ และบางรุ่นยังมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมที่หลากหลาย เช่น การเพิ่มความชันของแผ่นวิ่งเพื่อจำลองการวิ่งขึ้นเนิน, การตั้งโปรแกรมให้เพิ่มหรือลดความเร็วและความชันแบบออโต้ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ลู่วิ่งไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกในการออกกำลังกาย

การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า ช่วยอำนวยความสะดวกและลดเวลาเดินทางออกไปวิ่งข้างนอกหรือตามสวนสาธารณะได้ ถ้าผู้อ่านมีติดบ้านเอาไว้ก็จะเป็นการเพิ่มความสะดวกในการออกกำลังกายไปอีกระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้คุณมีงานหรือธุระมากมายจนทำให้ไม่สามารถออกเดินทางไปฟิตเนสได้ แต่ถ้ามีลู่วิ่งไฟฟ้าอยู่ที่บ้าน อย่างน้อยคุณก็ออกกำลังกายในรูปแบบคาร์ดิโอได้ (Cardio Exercise) และยังสามารถนำลู่วิ่งไฟฟ้ามาผสมกับออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ อยู่ที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายว่ามีมากน้อยแค่ไหน จากที่กล่าวมาคุณจะเห็นได้เลยว่าลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถเพิ่มความสะดวกได้อย่างมากมาย และมันจะให้ประโยชน์ในด้านใดอีกบ้างนั้น มาดูกัน

ลู่วิ่งไฟฟ้า

ประโยชน์ของลู่วิ่งไฟฟ้า

ประโยชน์ของลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmills) แท้จริงนั้นมีอยู่มาก ยิ่งผู้ใช้งานมีความรู้และทักษะกลไกร่างกายสูง ก็จะยิ่งดึงประสิทธิภาพการใช้ลู่วิ่งได้มากขึ้นเท่านั้น ประโยชน์ของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นไม่ใช่เพียงแค่มีผลลัพธ์ทางด้านพัฒนาสมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) แต่ยังมีข้อดีที่ลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกโดยไม่ต้องออกไปตากแดดตากลมฝน ทั้งนี้ ทางทีมงานก็ได้สรุปรวบรวมประโยชน์ของลู่วิ่งไฟฟ้าตามรายละเอียด ดังนี้

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ : ไม่ว่าจะเป็นฝน, หิมะ, หรืออากาศที่ร้อนจัด คุณสามารถออกกำลังกายได้ในที่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย
  • การออกกำลังกายได้ทุกเวลา : คุณสามารถใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาว่าง, เวลาหลังเลิกทำงาน หรือแม้กระทั่งกลางคืน นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องเดินทางไปยิมหรือไปวิ่งข้างนอกอีกด้วย
  • ควบคุมความเร็วและความชันได้: สามารถปรับความเร็วและความชันของลู่วิ่งไฟฟ้าให้เหมาะสมกับระดับการออกกำลังกายที่ต้องการได้ ที่สำคัญการทำความเข้าใจแนวคิดของ Progressive Overload จะเป็นประโยชน์
  • ใช้งานได้ง่าย : ลู่วิ่งไฟฟ้าส่วนใหญ่มีการใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ทั้งในการเริ่มต้นการวิ่ง, การปรับเปลี่ยนความเร็ว และการหยุดพัก
  • การออกกำลังกายแบบส่วนตัว: หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกายในสถานที่สาธารณะ ลู่วิ่งไฟฟ้าจะช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายที่บ้าน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการมีคนจ้องมอง
  • ช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางกาย : ในส่วนของสมรรถนะทางด้านระบบไหลเวียนโลหิต (Cardio Respiratory Endurance) จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมถึงการผสมผสานการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในทางที่ดี
  • บรรเทาความเครียด : การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีในการลดความเครียดและความวิตกกังวล การวิ่งหรือเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถช่วยเพิ่มการสร้างฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกสุขสบายและสดชื่น

ประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้า

2 ประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้า

ประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้าโดยปกติแล้วมีอยู่หลายประเภท แต่ตามความนิยมและที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันจะมีประเภทลู่วิ่งไฟฟ้าอยู่ 2 ประเภท นั้นคือ ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในบ้านหรือใช้ในแบบส่วนตัว กับลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้ตามฟิตเนสและสถานที่ออกกำลังกาย โดยจะแบ่งตามขนาดหรือประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้าตามมอเตอร์ของลู่วิ่งที่ใช้หน่วยวัดเป็น แรงม้า (Horsepower : HP) ซึ่งลู่วิ่งทั้ง 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรนั้น มาดูกันเลย

1. ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในบ้านหรือใช้ส่วนตัว

ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในบ้านหรือส่วนตัว ทำขึ้นมาเพื่อการใช้พื้นที่ที่น้อยกว่า ระบบของมันอาจจะไม่มีความซับซ้อนเท่าลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพาณิชย์หรือตามฟิตเนส ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบนี้มักจะมีขนาดที่เล็กกว่า และบางรุ่นยังสามารถพับได้เพื่อประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ใช้งาน โดยมอเตอร์ลู่วิ่งที่เหมาะในการใช้ภายในบ้าน ควรจะมีขนาด ดังนี้

  • มอเตอร์ของลู่วิ่งควรมีขนาด 3.0 แรงม้า (HB) และมีพื้นที่ของสายพานยาว 100 – 130 cm

2. ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้ในฟิตเนสและสถานที่ออกกำลังกาย

ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้ในฟิตเนสและสถานที่ออกกำลังกายมักจะทนทานและมีความสามารถในการรองรับการใช้งานที่หนักมากขึ้น เช่น การวิ่งในระดับความเร็วสูงหรือใช้งานอย่างต่อเนื่องนาน ๆ จอแสดงผลมักจะมีฟีเจอร์ที่มากขึ้น เช่น การติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย, โปรแกรมวิ่งที่กำหนดล่วงหน้า และการเชื่อมต่อไวไฟหรือบลูทูธสำหรับการเล่นเพลงหรือติดตามข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังอาจมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ระบบวัดชีพจร (heart rate monitoring) หรือระบบดูดซับแรงกระแทก (Shock Absorption) เพื่อลดแรงกระแทกต่อข้อเท้า ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบนี้มักจะมีขนาดใหญ่กว่า, สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานมากกว่า และจะมีขนาดมอเตอร์ที่สูงกว่าลู่วิ่งที่ใช้ในบ้าน คือ

  • มอเตอร์ของลู่วิ่งจะมีขนาด 4.0 แรงม้า (HB) และมีพื้นที่สายพานไม่ต่ำว่า 130 cm ส่วนมอเตอร์นี้สามารถรองรับน้ำหนักตัวผู้ออกกำลังกายได้ถึง 100 – 150 Kg. และสามารถเร่งความเร็วได้สูงกว่า 20 Km/hr

แนวทางวิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสม

4 แนวทางวิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสม

แนวทางวิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นข้อมูลที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งมีความคิดที่จะซื้อลู่วิ่งหรือคนที่มีลู่วิ่งเดิมอยู่แล้วและกำลังจะซื้อใหม่อีกครั้ง ทางทีมงานอยากให้คุณได้ดูข้อมูลเหล่านี้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น วิธีเลือกเลือกสเปคของลู่วิ่งให้เหมาะกับตนเอง, วิธีเลือกยี่ห้อของลู่วิ่ง, หาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริง และการบริการหลังการขาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เลือกสเปคของลู่วิ่งให้เหมาะกับตนเอง

การเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัตถุประสงค์ในการออกกำลังกาย, พื้นที่ในการวาง, ทักษะพื้นฐานการออกกำลังกาย และที่สำคัญคือในส่วนของงบประมาณ คุณควรตั้งงบเอาไว้ก่อนว่ารับได้ที่ราคาเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ และก่อนที่คุณจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟาคุณจะต้องมีความเข้าใจก่อนว่า มอเตอร์ที่ใช้กับลู่วิ่งนั้นเหมาะกับตัวคุณเองหรือไม่ คือ

  • ขนาดมอร์เตอร์ 1.5 – 2.0 แรงม้า (HB) , เหมาะสำหรับการใช้เดินเท่านั้น , พื้นที่ความยาวของสายพานอยู่ที่ ไม่ตำกว่า 100 cm
  • ขนาดมอร์เตอร์ 2.0 – 3.0 แรงม้า (HB) , เหมาะสำหรับใช้วิ่งภายในบ้าน , พื้นที่ความยาวของสายพานอยู่ที่ 100 – 130 cm
  • ขนาดมอร์เตอร์ 4.0 แรงม้า (HB) , เหมาะสำหรับใช้ในฟิตเนสหรือสำหรับคนที่มีสมรรถภาพทางกายสูง , พื้นที่ความยาวของสายพานอยู่ที่ ไม่ตำกว่า 130 cm

และสิ่งที่ควรรู้ถัดมาก็คือ ในแต่ละขนาดของมอเตอร์ลู่วิ่งไฟฟ้านั้นจะให้กำลังในการลากจูงหรือรับน้ำหนักที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถรับน้ำหนักของผู้ที่ออกกำลังกาย ปัจจัยจะไม่อยู่ที่ขนาดของลู่วิ่งที่ใหญ่เพียงอย่างเดียว และจะอยู่ที่ขนาดของมอเตอร์ด้วยดังข้อมูลนี้

  • ขนาดมอร์เตอร์ 2.0 – 2.75 แรงม้า (HB) สามารถรับหนักอยู่ที่ ไม่เกิน 80 Kg.
  • ขนาดมอร์เตอร์ 3.0 แรงม้า (HB) สามารถรับหนักอยู่ที่ 80 – 100 Kg.
  • ขนาดมอร์เตอร์ 4.0 แรงม้า (HB) สามารถรับหนักอยู่ที่ 100 – 105 Kg.

2. วิธีเลือกยี่ห้อของลู่วิ่ง

การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าจึงต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คุณภาพของสินค้า และการบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพที่ดี เพราะสินค้าที่มีแบรนด์มักจะมีความทนทานและคุณภาพที่ดีกว่าแม้ว่าราคาของสินค้าจะสูงกว่าไม่มีแบรนด์ อย่างไรก็ตาม การที่สินค้ามีการบริการหลังการขายที่ดี เช่น การซ่อมแซมและการบริการอื่น ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมและมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

3. หาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริง

การหาข้อมูลรีวิวของผู้ใช้จะช่วยให้คุณเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานลู่วิ่ง รีวิวจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งจะช่วยให้คุณมองภาพรวมได้อย่างชัดเจนและตัดสินใจได้ว่าแบรนด์นั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่ นอกจากนี้ รีวิวยังช่วยให้คุณมองเห็นข้อเสียและข้อดีของการใช้งานหลาย ๆ ด้าน เช่น ประสิทธิภาพ ความสบาย และการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าเป็นไปตามความต้องการของคุณหรือไม่ ดังนั้น การศึกษารีวิวของผู้ใช้จึงเป็นสิ่งที่คุณควรทำก่อนที่จะตัดสินใจซื้อลู่วิ่ง

4. การรับประกันและบริการหลังการขาย

การรับประกันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจในการซื้อสินค้า แบรนด์ที่มีการรับประกันที่ดีแสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ซึ่งอาจประกอบไปด้วยการให้บริการซ่อมแซมหรือการแทนที่สินค้าในกรณีที่เกิดปัญหา ดังนั้น การตรวจสอบรายละเอียดของการรับประกันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ รวมถึงการตรวจสอบว่ามีศูนย์บริการใกล้บ้านหรือไม่ เพราะการให้บริการซ่อมแซมหรือการแทนที่สินค้าในกรณีที่เกิดปัญหาอาจจำเป็นต้องใช้เวลานาน ดังนั้นการตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวจึงช่วยป้องกันการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือการแทนที่สินค้า อย่างไรก็ตาม การรับประกันสินค้าไม่ได้หมายความว่าสินค้านั้นไม่มีปัญหา ดังนั้นการตรวจสอบความเหมาะสมของสินค้ากับความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย

ขั้นตอนการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างถูกต้อง

แนะนำ 4 ขั้นตอนการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างถูกต้อง

ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ถูกต้องและปลอดภัยสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บและประสิทธิภาพในการออกกำลังกายของคุณ ด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องมือออกกำลังกายที่มักมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในฟิตเนสและในบ้าน ดังนั้นทางทีมงานจึงได้รวบรวมข้อมูลขั้นตอนการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้ามานำเสนอคือ เช็คลู่วิ่งไฟฟ้าก่อนการใช้งาน, การแต่งกาย, การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าและการดูลู่วิ่งไฟฟ้า โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. เช็คลู่วิ่งไฟฟ้าก่อนการใช้งาน

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่มการออกกำลังกาย มีขั้นตอนที่ควรตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือทำงานอย่างถูกต้องและปลอดภัย ดังนี้

  • ตรวจสอบสายไฟ: ตรวจสอบสายไฟของลู่วิ่งให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนที่ฉีกขาดหรือเสียหายหากพบว่ามีสายไฟที่ฉีกขาดหรือเสียหาย ควรหยุดใช้งานและติดต่อผู้ผลิต
  • ตรวจสอบพื้นลู่วิ่ง: ลองเปิดเครื่องแล้วสังเกตการเคลื่อนที่ของสายพานว่ามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่ รวมถึงเช็คสายพานว่ามีความเสื่อมสภาพฉีกขาดหรือเปล่า
  • ตรวจสอบปุ่มควบคุม: ทดสอบปุ่มควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง ความเร็วควรเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างสม่ำเสมอตามที่ปรับ และปุ่มหยุดฉุกเฉินควรทำงานอย่างถูกต้อง

2. การแต่งกายให้เหมาะสมกับการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า

การใส่ชุดที่เหมาะสมสำหรับการวิ่งในลู่วิ่งจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และการแต่งกายยังส่งผลถึงการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดจากการออกกำลังกายหรือการวิ่งบนลู่ ซึ่งอาจทำให้คุณได้รับบาดเจ็บได้ ทางทีมงานจึงขอแนะนำการแต่งกายที่เหมาะกับการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าดังต่อไปนี้

  • รองเท้าวิ่ง: สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการวิ่งบนลู่วิ่งคือรองเท้าวิ่งที่ดี ควรเลือกรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมสำหรับฝ่าเท้าของคุณ และมีความยืดหยุ่นและความนุ่มนวลที่จะทนต่อแรงกระแทกขณะวิ่ง
  • ชุดกีฬา: ใส่เสื้อผ้าที่กีฬาทำจากวัสดุที่ระบายความร้อน ระบายอากาศและซับเหงื่อได้ดี เช่น เสื้อผ้าไนก้าหรือโพลีเอสเตอร์ และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่ซับเหงื่อได้ หรือวัสดุที่จับความชื้น เช่น ผ้าฝ้าย เป็นต้น
  • อุปกรณ์ป้องกัน: หากคุณมีปัญหาด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับเข่าหรือข้อเท้า คุณควรใส่อุปกรณ์ป้องกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ

3. การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า

การใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าที่ถูกต้องไม่เพียงแค่ทำให้การออกกำลังกายของคุณมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ช่วงเซ็ตอัพ : ให้เริ่มต้นด้วยการยืนอยู่บนลู่วิ่งไฟฟ้าขณะที่สายพานยังไม่มีการเคลื่อนไหน แล้วตั้งค่าลู่วิ่งตามโปรแกรมที่ต้องการหรือจะกดปุ่ม Start ไปเลยก็ได้ ลู่วิ่งก็จะเข้าสู่โปรแกรม Manual
  • ช่วงเริ่มต้น : ค่อย ๆ ปรับความเร็วและความชันของลู่วิ่งตามที่คุณต้องการ โดยให้ปรับระดับเพิ่มขึ้นทีละนิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ
  • ขณะวิ่ง : ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ ถ้าเป็นมือใหม่ให้คุณใช้มือประคองตัวเองโดยการแตะหรือจับที่พักมือของลู่วิ่ง แต่ถ้าคุณมีความชำนาญแล้วก็วิ่งได้ตามปกติ และอย่างมองเท้าตัวเองหรือมองไปที่สายพาน เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นขณะวิ่งให้มองตรงไปข้างหน้าเสมอ
  • ช่วงกำลังจะหยุดวิ่ง : ถ้าคุณทำการวิ่งลู่วิ่งเสร็จแล้ว อย่ากดหยุดหรือกดปุ่ม Emergency Stop เพราะจะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันและจะมีอาการบาดเจ็บตามมา ดังนั้นถ้าจะหยุดวิ่ง ให้ทำการลดความเร็วและความชันลงมาทีละนิด เปลี่ยนจากวิ่ง เป็นเดินเร็ว และเดินช้าลงเพื่อเป็นการคูลดาวน์ (Cool Down)

4. หมั่นดูแลลู่วิ่งไฟฟ้าของคุณ

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่ถูกใช้งานซ้ำไปมา แน่นอนว่าความเสียหายและการชำรุดก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สุดฮิตที่สำคัญมาก แต่ไม่ว่าจะซื้อมาในราคาเท่าไหร่ก็ต้องรักษาอย่างถูกต้อง เพราะการใช้งานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดปัญหาเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งเครื่องมีราคาที่สูง รวมถึงการนำเข้าสินค้าหรือการเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ทำให้ต้องใช้เวลาและเงินในการซ่อมหรือบางครั้งอาจต้องซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาอุปกรณ์ของคุณด้วยวิธีง่าย ๆ ที่สามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยตัวเอง ตามข้อมูลต่อไปนี้

4.1 ทำความสะอาดตัวเครื่องของลู่วิ่งไฟฟ้า

เริ่มต้นการทำความสะอาดอุปกรณ์ภายนอกได้ง่ายๆ โดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหรือสเปรย์ทำความสะอาดฉีดชำระล้าง เช่นเดียวกับการทำความสะอาดแผงควบคุมหน้าจอ ราวจับ และมุมอื่นๆ ของตัวเครื่อง โดยควรจะไม่ปล่อยให้ฝุ่น หรือคราบเหงื่อจากการออกกำลังกายสะสมเป็นเวลานาน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและส่งผลต่อการใช้งานของอุปกรณ์ในภายหลังได้ หากเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ในบ้าน แล้วไม่มีช่างคอยตรวจเช็คอุปกรณ์ให้บ่อยๆ คุณสามารถเปิดฝาครอบแผงไฟฟ้ามอเตอร์ เพื่อดูดฝุ่นที่เกาะอยู่ภายในได้เอง อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังอย่างมากเมื่อทำการดูดฝุ่น และควรปิดระบบไฟฟ้าหรือถอดปลั๊กออกก่อนทำการทำความสะอาด

4.2 หยอดน้ำยาหล่อลื่นของลู่วิ่งไฟฟ้า

การหยอกน้ำยาหล่อลื่นของลู่วิ่งไฟฟ้าจะต้องใช้ซิลิโคน แต่ในบางรุ่นก็จะมีวิธีการใช้หรือวัสดุที่ใช้ไม่เหมือนกัน (ตามคู่มือของแต่ละรุ่น) หากพบว่าสายพานมีอาการฝืดหรือหย่อนตึง ควรถอดสายพานตามวิธีการของคู่มือแต่ละรุ่น (โดยควรมีความเชี่ยวชาญเท่านั้น) เพื่อปรับสายพานและหยอดน้ำยาให้มีความพอดี ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป หากพบว่าสายพานหมดอายุหรือฉีกขาด ควรแจ้งช่างเพื่อเปลี่ยนสายพานทันที

4.3 ต้องเช็คสายไฟของลู่วิ่งไฟฟ้าทุกครั้ง

การตรวจสอบสายไฟของลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถทำได้โดยดูที่สายไฟที่เชื่อมต่อด้านหลังของลู่วิ่งเพื่อเปิดใช้งาน และสายไฟของมอเตอร์ วิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองคือ ตรวจสอบว่าสายไฟของมอเตอร์และสายไฟเชื่อมต่อหลังลู่วิ่งมีการชำรุดหรือไม่ หากพบว่ามีการชำรุดเกิดขึ้น ให้รีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการเช็คและซ่อมแซมเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

สรุปข้อมูลเกี่ยวกับ ลู่วิ่งไฟฟ้า Treadmills

จากเนื้อหาของบทความที่กล่าวมานี้ เชื่อว่าคุณจะได้รู้ข้อมูลโดยรวมเกี่ยวกับลู่วิ่งไฟฟ้าและการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว สิ่งสำคัญคืออย่าลืมว่าต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดของมอเตอร์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ นอกจากนี้ ยังควรศึกษาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริง, การรับประกัน และบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดเวลาเดินทางไปข้างนอก ทำให้สามารถออกกำลังกายได้ทุกเวลา คุณยังสามารถปรับความเร็วและความชันของเครื่องได้ ทำให้มีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมที่ดี เช่น ช่วยบรรเทาความเครียด, ความวิตกกังวล และช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางกายได้เป็นอย่างดี

 

อ้างอิง :

  1. Health.harvard – Get smart about treadmills.
    https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/get-smart-about-treadmills
  2. Health – Pros and Cons of Running on a Treadmill.
    https://www.health.com/fitness/the-pros-and-cons-of-running-on-the-treadmill
  3. Masterclass – Types of Treadmills: A Breakdown of 5 Treadmill Types.
    https://www.masterclass.com/articles/types-of-treadmills-explained
  4. Verywellfit – 14 Tips for Treadmill Running.
    https://www.verywellfit.com/tips-for-treadmill-running-2911986
  5. Planetfitness – 6 TIPS FOR AN EFFECTIVE BEGINNER TREADMILL WORKOUT.
    https://www.planetfitness.com/community/articles/6-tips-effective-beginner-treadmill-workout
Picture of Nattakit Panthong

Nattakit Panthong

ผมเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพที่เรียนจบวิทยาศาสตรการกีฬา และได้ผ่านหลักสูตรฝึกอบรมมากมาย ผมมีประสบการณ์ในเรื่องการฝึกสอนแบบส่วนตัวมากกว่า 10 ปี รวมถึงการสอนออกกำลังกายแบบกลุ่มในคลาสออกกำลังกายอีกมากมายหลายประเภท เพราะฉะนั้นผมจึงอยากนำความรู้และประสบการณ์การออกกำลังกายรวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายมาแนะนำแบ่งปันแก่เพื่อน ๆ ทุกคน

เนื้อเรื่องที่คุณอาจสนใจ

กระโดดเชือกช่วยอะไร
กระโดดเชือกช่วยอะไร ? การออกกำลังกายที่ได้ประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

คุณเคยเห็นคนเหวี่ยงเชือกแล้วกระโดดข้ามเชือกซ้ำ ๆ แล้วสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ไหม ? สิ่งนั้นเรียกว่า ‘การกระโดดเชือก (Jump Rope)’

การดูแลรักษาดัมเบล
การดูแลรักษาดัมเบล และแนะนำขั้นตอนวิธีการทำความสะอาดดัมเบล

การดูแลรักษาดัมเบล หากได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงการดูแลและถนอมดัมเบลให้ใช้งานได้ยาวนาน

ลู่วิ่งไฟฟ้า vs Elliptical
ลู่วิ่งไฟฟ้า vs Elliptical : การเลือกเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณ

เมื่อต้องเลือกเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสม ลู่วิ่งไฟฟ้า vs Elliptical (เครื่องเดินวงรี) เป็นสองตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ประโยชน์ของดัมเบล
ประโยชน์ของดัมเบล ที่ใช้สำหรับการออกกำลังกาย

ประโยชน์ของดัมเบล ที่ใช้ในการออกกำลังกายตามโปรแกรมการออกกำลังกายของคุณนั้นมีมากมาย และดัมเบลสามารถใช้งานให้เหมาะกับทุกรูปแบบ

Dip Bar คืออะไร
Dip Bar คืออะไร ? เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ออกกำลังกายชนิดนี้

Dip Bar คืออะไร ดิปบาร์คือหนึ่งในเครื่องมือช่วยเพิ่มความฟิตให้กับร่างกายของคุณ โดยเป็นเครื่องมือง่ายๆ แต่นํามาใช้ได้หลากหลาย

ความปลอดภัยในการใช้ดัมเบล
ความปลอดภัยในการใช้ดัมเบล การป้องกันอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย

ความปลอดภัยในการใช้ดัมเบล การป้องกันอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจว่าการออกกำลังกายของคุณปลอดภัย มีประสิทธิผล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top